วิธีการและขั้นตอนการปลูกมังคุด ตอนที่ 2

เทคนิคขั้นตอนและวิธีลำไยให้ได้ผลผลิตดีคุณภาพสูง
ตอน  1  2 

แผนปลูกมังคุดคุณภาพ

เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ขนาดผลไม่ต่ำกว่า 80 กรัม ต่อผล ผิวมัน ปราศจากตำหนิที่เกิดจากการเข้าทำลายของโลก แมลง และการจัดเก็บมังคุดลงตะกร้าหูเหล็ก หรือ ตะกร้ามังคุด และสาเหตุอื่นๆ หรือมีน้อยไม่เด่นชัด ปราศจากอาการเนื้อแก้ว และยางไหลภายในผลมังคุด ในปริมาณไม่น้อยกว่า 55 เปอร์เซ็นต์ของผลผลิตรวม
โดยทั่วไปมังคุดเริ่มออกดอกเมื่อปลูกไปได้ประมาณ 7-8 ปี และได้ผลผลิตมังคุดเต็มที่เมื่อมีอายุประมาณ 12 ปีขึ้นไป การออกดอกของต้นมังคุดจะไม่ออกดอกพร้อมกันในทีเดียวจะทยอยออกดอกอยู่นานราว 40 วัน เป็นผลให้ การเก็บเกี่ยวมังคุดต้องทยอยเก็บเกี่ยวไปด้วยเช่นกัน

ขั้นตอนวิธีการจัดการเพื่อปลูกมังคุดคุณภาพ

1. การเตรียมต้นให้พร้อมสำหรับการออกดอก
2. การชักนำการออกดอก และควบคุมปริมาณดอกต่อต้นให้เหมาะสม
3. การส่งเสริมการพัฒนาการของผล และเพิ่มปริมาณผลผลิตมังคุดคุณภาพ
4. การป้องกันผลผลิตมังคุดเสียหาย

วิธีการจัดการตามแผนปลูกมังคุดคุณภาพ

1. การเตรียมต้นให้พร้อมสำหรับการออกดอก

1.1 วิธีการจัดการปุ๋ยเพื่อชักนำการแตกใบอ่อน

(2 สัปดาห์หลังเก็บเกี่ยว)
ตัวบ่งชี้ช่วยตัดสินใจ
- ประเมินความสมบูรณ์ต้น น้อยกว่าหรือเท่ากับ 60 เปอร์เซ็นต์ โดยประเมินจากจำนวนใบ ขนาดและสีใบ และร่องรอยการเข้าทำลายของโรคและแมลง
- ประเมินปริมาณการให้ผลผลิตมังคุดในปีที่ผ่านมา โดยประเมินจำนวนผลต่อต้นน้อยกว่าหรือเท่ากับ 10 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนยอดทั้งหมด
วิธีป้องกันและแก้ปัญหา
- หว่านปุ๋ยคอกใต้ทรงพุ่มในอัตราเป็นกิโลกรัมต่อต้นเท่ากับ 4 เท่าของเส้นผ่าศูนย์กลางทรงพุ่ม แล้วคลุมโคนด้วยเศษซากพืช เพื่อลดปริมาณการไหลบ่าของน้ำผิวดิน ช่วยป้องกันการสูญเสียปุ๋ย
- ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16 อัตราเป็นกิโลกรัมต่อต้น เท่ากับ 1/3 เท่าของเส้นผ่าศูนย์กลางทรงพุ่มโดยวิธีหว่านใต้ทรงพุ่มให้ทั่ว แล้วคลุมด้วยเศษซากพืช

1.2 วิธีการตัดแต่งกิ่งมังคุดเพื่อควบคุมทรงพุ่ม

(3-4 สัปดาห์หลังเก็บเกี่ยว)
ตัวบ่งชี้ช่วยตัดสินใจ
- ประเมินขนาดทรงพุ่ม ต้นที่มีชายพุ่มชิดกันหรือประสานกัน และ/หรือความสูงมากกว่า หรือเท่ากับ 8 เมตร หรือ สูงเกินความสามารถของเครื่องพ่นสารพ่นถึง และประเมินกิ่งแห้ง กิ่งหักและกิ่งที่ถูกทำลายโดยศัตรูพืช
วิธีป้องกันและแก้ปัญหา
- ตัดแต่งกิ่งที่อยู่ด้านข้างของทรงพุ่มที่ประสานกันออก ให้มีช่องว่างระหว่างชายพุ่มโดยรอบกับต้นข้างเคียงประมาณ 50-75 เซนติเมตร เนื่องจากต้นมังคุดต้องการแสงแดดเพียง 30-50 เปอร์เซ็นต์ ของแสงแดดในฤดูร้อนที่ไม่มีเมฆบัง
- ตัดยอดในส่วนที่สูงเกินต้องการออก เนื่องจากกิ่งที่อยู่ในทรงพุ่มสามารถให้ผลผลิตได้ และมีโอกาสเป็นผลผลิตที่มีคุณภาพสูงกว่ากิ่งที่อยู่ชายทรงพุ่ม
- ตัดกิ่งประธาน หรือกิ่งรองออกด้านละ 1-5 กิ่ง เพื่อทำเป็นช่องปิดแสงส่องผ่านเข้าไปในทรงพุ่ม ในกรณีต้นมังคุดที่ให้ผลผลิตแล้ว เมื่อแสงส่องผ่านเข้าไปในทรงพุ่มทำให้มีกิ่งแขนงเกิดจำนวนมาก ให้เลี้ยงกิ่งแขนงที่อยู่ในทรงพุ่มไว้ เนื่องจากการตัดแต่งกิ่งเป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นให้แตกใบอ่อนได้

1.3 วิธีการจัดการเพื่อชักนำให้มังคุดแตกใบอ่อน

(6 สัปดาห์หลังเก็บเกี่ยว)
ตัวบ่งชี้ช่วยตัดสินใจ
- หลังจากจัดการปุ๋ยและตัดแต่งกิ่งแล้ว สำรวจพบว่าต้นมังคุดยังไม่มีการแตกใบอ่อน หรือมีการแตกใบอ่อนน้อยกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนยอดทั้งหมด
วิธีป้องกันและแก้ปัญหา
- ชักนำให้แตกใบอ่อนโดยการพ่นปุ๋ยยูเรีย อัตรา 100-200 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ให้ทั่วทั้งต้น

1.4 วิธีการป้องกันกำจัดแมลง และไรศัตรูทำลายใบอ่อนต้นมังคุด

(8-10 สัปดาห์หลังเก็บเกี่ยว)
ตัวบ่งชี้ช่วยตัดสินใจ
- สำรวจและประเมินความเสียหายจากแมลง และไรศัตรูทำลายใบอ่อน ได้แก่
• เพลี้ยไฟ เมื่อพบ 1 ตัว ต่อยอด
วิธีป้องกันและแก้ปัญหา
- พ่นด้วยสารเคมีเมื่อความเสียหายเกินระดับเศรษฐกิจดังนี้
เพลี้ยไฟ พ่นอิมิดาโคลพริด 10 เปอร์เซ็นต์ เอสแอล อัตรา 10 มิลลิลิตร ต่อ น้ำ 20 ลิตร หรือฟิโปรนิล 5 เปอร์เซ็นต์ เอสซี อัตรา 10 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ ไซเพอร์เมทริน/โฟซา-โลน 6.25 เปอร์เซ็นต์/22.5 เปอร์เซ็นต์ อีซี อัตรา 40 มิลลิลิตร ต่อ น้ำ 20 ลิตร หรือคาร์โบซัลแฟน 20 เปอร์เซ็นต์ อีซี อัตรา 50 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร
ให้สำรวจเพลี้ยไฟหลังพ่นสารเคมีครั้งแรก 1 สัปดาห์ หากยังพบปริมาณเพลี้ยไฟเกิน 1 ตัวต่อยอด ต้องพ่นสารเคมีซ้ำอีกครั้งและควรสลับการใช้สารเคมีชนิดอื่นเพื่อป้องกันแมลงสร้างความต้านทาน
ตัวบ่งชี้ช่วยตัดสินใจ
• หนอนกินใบอ่อน ทำลายใบอ่อนประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ของยอด
วิธีป้องกันและแก้ปัญหา
- หนอนกินใบอ่อน พ่นคาร์บาริล 85 เปอร์เซ็นต์ ดับบลิวพี อัตรา 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
ตัวบ่งชี้ช่วยตัดสินใจ
• หนอนชอนใบ ทำลายใบอ่อนประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ ของยอด
วิธีป้องกันและแก้ปัญหา
- หนอนชอนใบ พ่นสารเคมี 2 ครั้ง ห่างกัน 10 วัน โดยใช้ คาร์บาริล 85 เปอร์เซ็นต์ ดับบลิวพี อัตรา 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
ตัวบ่งชี้ช่วยตัดสินใจ
• ไรแดง ทำลายใบมากกว่าหรือเท่ากับ 25 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนใบทั้งหมด
วิธีป้องกันและแก้ปัญหา
- ไรแดง พ่นด้วยโพรพาร์ไกด์ 30 เปอร์เซ็นต์ ดับบลิวพี อัตรา 30 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือเฮกซีไทอะซอกซ์ 2 เปอร์เซ็นต์ อีซี อัตรา 40 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร

1.5 วิธีการป้องกันกำจัดโรคทำลายใบอ่อน

(8-10 สัปดาห์หลังเก็บเกี่ยว)
ตัวบ่งชี้ช่วยตัดสินใจ
- สำรวจและประเมินการเข้าทำลายของโรคใบจุด และโรคจุดสนิม
วิธีป้องกันและแก้ปัญหา
- โรคใบจุด พ่นคาร์เบนดาซิม 50 เปอร์เซ็นต์ ดับบลิวพี อัตรา 10-15 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
- โรคจุดสนิม พ่นด้วยคอปเปอร์ออกซีคลอไรด์ 80 เปอร์เซ็นต์ ดับบลิวพี อัตรา 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร

1.6 วิธีการกำจัดวัชพืช

(ตั้งแต่เก็บเกี่ยวจนถึงเก็บเกี่ยวครั้งต่อไป)
ตัวบ่งชี้ช่วยตัดสินใจ
- ประเมินจำนวนวัชพืช คือ เมื่อมีต้นวัชพืชขึ้นคลุมพื้นที่สวนมังคุดมากกว่า หรือเท่ากับ 90 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นที่สวนมังคุดทั้งหมด และมีความสูงเฉลี่ยไม่เกิน หรือเท่ากับ 30 เซนติเมตร จำแนกชนิดวัชพืชที่พบ
วิธีป้องกันและแก้ปัญหา
• วัชพืชฤดูเดียว เช่น หญ้าขจรจบ หญ้าตีนนก เป็นต้น
- ตัดวัชพืชให้สั้นทุกๆ 2-3 เดือน ด้วยเครื่องตัดหญ้าแบบต่างๆ หรือใช้สารกำจัดวัชพืช เช่น พาราควอท 27.6 เปอร์เซ็นต์ เอสแอล อัตรา 75-150 มิลลิลิตร ผสมน้ำ 20 ลิตร พ่นให้ทั่วพื้นที่ 1/4 ไร่ หลังวัชพืชงอก เมื่อวัชพืชกำลังเจริญเติบโตและมีใบมาก และควรพ่นก่อนวัชพืชออกดอก ขณะพ่นควรมีแดดจัด ลมสงบ ระวังละอองสารสัมผัสใบและต้นมังคุด
• วัชพืชข้ามปี เช่น หญ้าคา หญ้าชันกาด แห้วหมู เป็นต้น
- ตัดวัชพืชให้สั้นทุกๆ 1-2 เดือน ด้วยเครื่องตัดหญ้าแบบต่างๆ หรืใช้สารกำจัดวัชพืช เช่น ไกลโฟเสท 48 เปอร์เซ็นต์ เอสแอล อัตรา 150-200 มิลลิลิตร หรือกลูโฟชิเนตแอมโมเนีย 15 เปอร์เซ็นต์เอสแอล อัตรา 250-500 มิลลิลิตร ผสมน้ำ 20 ลิตร พ่นให้ทั่วในพื้นที่ 1/4 ไร่ วิธีพ่นและข้อควรระวังเช่นเดียวกับการใช้ในวัชพืชฤดูเดียว

1.7 วิธีการจัดการปุ๋ยเพื่อส่งเสริมความสมบูรณ์ของต้นมังคุด

(11-12 สัปดาห์ หลังเก็บเกี่ยว)
ตัวบ่งชี้ช่วยตัดสินใจ
- ประเมินความสมบูรณ์ของใบอ่อนมังคุดชุดใหม่ ขนาดใบเล็กกว่าชุดเดิม สีไม่สดใส
วิธีป้องกันและแก้ปัญหา
- พ่นด้วยปุ๋ยเคมีทางใบสูตร 15-30-15 หรือ 20-20-20 ที่มีธาตุรอง และธาตุปริมาณน้อย อัตรา 60 กรัม ร่วมกับกรดฮิวมิค อัตรา 20 มิลลิลิตร ผสมน้ำ 20 ลิตร พ่นให้ทั่วทรงพุ่ม

1.8 วิธีการจัดการปุ๋ยเพื่อเตรียมความพร้อมต้นมังคุด สำหรับการออกดอก

(14-16 สัปดาห์ หลังเก็บเกี่ยว)
ตัวบ่งชี้ช่วยตัดสินใจ
- ประเมินความพัฒนาการของใบเป็นใบแก่ทั่วทั้งต้นมังคุด
วิธีป้องกันและแก้ปัญหา
- หว่านปุ๋ยเคมีสูตร 8-24-24 หรือ 9-24-24 หรือ 13-13-21 ให้ทั่วทรงพุ่มอัตราเป็นกิโลกรัมต่อต้นเท่ากับ 1/3 เท่าของเส้นผ่าศูนย์กลางทรงพุ่ม
ความสมบูรณ์ต้นมังคุดพิจารณาได้ดังนี้
ความสมบูรณ์ต้นมาก (มากกว่า 75-100 เปอร์เซ็นต์) ต้นมังคุดมีความสมบูรณ์ใบมีขนาดใหญ่ เขียวสดใส เป็นมัน มีใบที่ได้รับความเสียหายจากการทำลายของศัตรูต่างๆ เช่น เพลี้ยไฟ หนอนชอนใบ หรือหนอนกินใบ น้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นที่ใบทั้งต้น และกิ่งได้รับความเสียหายเนื่องจากการเก็บเกี่ยว หรือศัตรูอื่นน้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนกิ่งทั้งต้น
ความสมบูรณืต้นปานกลาง (60-75 เปอร์เซ็นต์) ต้นมังคุดมีความสมบูรณ์ปานกลาง ใบได้รับความเสียหายเนื่องจากการทำลายของศัตรูต่างๆ มากกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ แต่น้อยกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นที่ใบทั้งต้น และกิ่งได้รับความเสียหายเนื่องจากการเก็บเกี่ยว หรือศัตรูอื่นๆ มากว่า 10 เปอร์เซ็นต์ แต่น้อยกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนกิ่งทั้งต้น
ความสมบูรณ์ต้นน้อย (น้อยกว่า 60 เปอร์เซ็นต์) ต้นมังคุดมีความสมบูรณ์ต่ำ ใบมีขนาดเล็ก ด้าน ใบคู่สุดท้ายของปลายยอดได้รับความเสียหาย เนื่องจากการทำลายของศัตรูต่างๆ มากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นที่ใบทั้งต้น และกิ่งได้รับความเสียหายเนื่องจากการเก็บเกี่ยว หร์อศัตรูอื่นๆ มากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนกิ่งทั้งต้น

2. วิธีการจัดการมังคุดเพื่อชักนำการออกดอกและควบคุมปริมาณดอกต่อต้นให้เหมะสม

2.1 วิธีการชักนำการออกดอก

(20-22 สัปดาห์ หลังเก็บเกี่ยว)
ตัวบ่งชี้ช่วยตัดสินใจ
-
การประเมินอายุตายอด ต้องมีอายุยอดมากกว่า 12 สัปดาห์ หลังการแตกใบอ่อนครั้งสุดท้าย
วิธีป้องกันและแก้ปัญหา
- จัดการน้ำโดยปล่อยให้ต้นมังคุดผ่านช่วงแล้งจนปล้องสุดท้ายของยอดแสดงอาการเหี่ยวอย่างชัดเจน และใบคู่สุดท้ายของยอดเริ่มมีอาการใบตก แล้วจึงให้น้ำครั้งแรกในปริมาณ 35-40 มิลลิเมตร ( 1 มิลลิเมตร เท่ากับ ปริมาณน้ำ 1 ลิตร ต่อพื้นที่ทรงพุ่ม 1 ตารางเมตร) และครั้งต่อมาทุกๆ 7-10 วัน ในปริมาณ 17.5-20.0 มิลลิเมตร จนกว่าต้นมังคุดจะออกดอกมากกว่า หรือเท่ากับ 15 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนยอดทั้งหมด
ในกรณีอายุตายอดน้อยกว่า 12 สัปดาห์ ใช้น้ำอัตรา 60 เปอร์เซ็นต์ ของอัตราการระเหยน้ำจากถาดระเหยชนิด A เพื่อให้รอตายอดมีอายุพอเหมาะพร้อมที่จะชักนำให้ออกดอก

2.2 วิธีการจัดการน้ำเพื่อควบคุมปริมาณดอก

(สัปดาห์ที่ 1 หลังต้นมังคุดออกดอก)
ตัวบ่งชี้ช่วยตัดสินใจ
- ประเมินปริมาณดอกต่อต้น ถ้ามังคุดออกดอกมากกว่า หรือเท่ากับ 15 เปอร์เซ็นต์ ของยอดทั้งหมด
วิธีป้องกันและแก้ปัญหา
- ให้น้ำในอัตรา 80 เปอร์เซ็นต์ ของอัตราการระเหยน้ำจากถาดระเหยชนิดA ทุก 3 วัน เพื่อควบคุมให้มีปริมาณดอกต่อต้นเท่ากับ 35-50 เปอร์เซ็นต์ ของยอดทั้งหมด

ระยะพัฒนาของดอกมังคุด
ระยะพัฒนาของดอกมังคุด ระยะ 1
ระยะ 1
ระยะพัฒนาของดอกมังคุด ระยะ 2
ระยะ 2
ระยะพัฒนาของดอกมังคุด ระยะ 3
ระยะ 3
ระยะพัฒนาของดอกมังคุด ระยะ 4
ระยะ 4
ระยะพัฒนาของดอกมังคุด ระยะ 5
ระยะ 5

2.3 วิธีการป้องกันกำจัดแมลงศัตรูทำลายดอก

(สัปดาห์ที่ 3-4 หลังต้นมังคุดออกดอก)
ตัวบ่งชี้ช่วยตัดสินใจ
- สำรวจและประเมินจำนวนเพลี้ยไฟ ถ้าพบจำนวนมากกว่า หรือเท่ากับ 1 ตัว ต่อ 4 ดอก
วิธีป้องกันและแก้ปัญหา
- พ่นอิมิดาโคลพริด 10 เปอร์เซ็นต์ เอสแอล อัตรา 10 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือฟิโปรนิล 5 เปอร์เซ็นต์ เอสซี อัตรา 10 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือไซเพอร์ เมทริน/โฟซาโลน 6.25 เปอร์เซ็นต์/22.5 เปอร์เซ็นต์ อีซี อัตรา 40 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ คาร์โบซัลแฟน 20 เปอร์เซ็นต์ อีซี อัตรา 50 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร

3. วิธีการจัดการเพื่อส่งเสริมการพัฒนาการของผลมังคุดและเพิ่มปริมาณผลผลิตมังคุดคุณภาพ

3.1 วิธีการป้องกันกำจัดแมลงศัตรูทำลายผลมังคุด

(สัปดาห์ที่ 5-7 หลังต้นมังคุดออกดอก)
สำรวจและประเมินจำนวนเพลี้ยไฟบนผลมังคุดทุก 7 วัน ถ้าพบมากว่า หรือเท่ากับ 1 ตัว ต่อ มังคุด 4 ผล
ตัวบ่งชี้ช่วยตัดสินใจ
- สำรวจและประเมินจำนวนเพลี้ยไฟบนผลมังคุดทุก 7 วัน ถ้าพบมากว่า หรือเท่ากับ 1 ตัว ต่อ มังคุด 4 ผล
วิธีป้องกันและแก้ปัญหา
- พ่นอิมิดาโคลพริด 10 เปอร์เซ็นต์ เอสแอล อัตรา 10 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือฟิโปรนิล 5 เปอร์เซ็นต์ เอสซี อัตรา 10 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือไซเพอร์ เมทริน/โฟซาโลน 6.25 เปอร์เซ็นต์/22.5 เปอร์เซ็นต์ อีซี อัตรา 40 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือคาร์โบซัลแฟน 20 เปอร์เซ็นต์ อีซี อัตรา 50 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร ในวิธีการจัดการเพื่อชักนำการออกดอก และควบคุมปริมาณดอกต่อต้นให้เหมาะสม
ตัวบ่งชี้ช่วยตัดสิใจ
- ไรขาว ทำลายผลอ่อนมังคุดประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์
วิธีป้องกันและแก้ปัญหา
- ไรขาว พ่นอามีทราช 20 เปอร์เซ็นต์ อีซี อัตรา 40 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20ลิตร

3.2 วิธีการควบคุมปริมาณผลมังคุดต่อต้นให้เหมาะสม

(สัปดาห์ที่ 6 หลังต้นมังคุดออกดอก)
ตัวบ่งชี้ช่วยตัดสินใจ
- ประเมินจำนวนผลมังคุดต่อต้น ที่มีจำนวนผลมากว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ของยอดทั้งหมด
วิธีป้องกันและแก้ปัญหา
- ใส่ปุ๋ยยูเรีย อัตรา 3-5 กิโลกรัม ต่อต้น หว่านใต้ทรงพุ่มบริเวณที่น้ำชลประทานซึมไปถึงเพื่อให้ผลร่วง

3.3 วิธีการจัดการปุ๋ยเพื่อส่งเสริมการพัฒนาการของผลมังคุด

(สัปดาห์ที่ 8 หลังต้นมังคุดออกดอก)
ตัวบ่งชี้ช่วยตัดสินใจ
- ประเมินอายุผลมังคุด เมื่อผลอายุ 4 สัปดาห์ หลังดอกบาน
วิธีป้องกันและแก้ปัญหา
- ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 13-13-21 หรือสูตร 12-12-17-2 อัตราเป็นกิโลกรัมต่อต้น เท่ากับ 1/3 ของเส้นผ่าศูนย์กลางทรงพุ่มโดยการหว่านใต้ทรงพุ่มบริเวณที่น้ำชลประทานซึมไปถึง

3.4 วิธีการจัดการน้ำเพื่อส่งเสริมการพัฒนาการของผลมังคุด

(สัปดาห์ที่ 9 หลังต้นมังคุดออกดอก)
ตัวบ่งชี้ช่วยตัดสินใจ
- ประเมินอายุผลมังคุด เมื่อผลอายุประมาณ 5 สัปดาห์ หลังดอกบาน
วิธีป้องกันและแก้ปัญหา
- เพิ่มปริมาณการให้น้ำจากอัตรา 80 เปอร์เซ็นต์ เป็น 90 เปอร์เซ็นต์ ของอัตราการระเหยจากถาดระเหยน้ำชนิด A

3.5 วิธีการจัดการปุ๋ยเพื่อเพิ่มปริมาณผลผลิตมังคุดคุณภาพ

(สัปดาห์ที่ 10-13 หลังต้นมังคุดออกดอก)
ตัวบ่งชี้ช่วยตัดสินใจ
- ประเมินการพัฒนาการของผลมังคุด พบผลที่มีสีผลเขียวปนเหลือง ไม่สดใส ทรงผลค่อนข้างกลมแป้น
วิธีป้องกันและแก้ปัญหา
- พ่นปุ๋ยทางใบที่มีสารเร่งการเจริญเติบโตของพืชอัตรา 30-40 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร จำนวน 3 ครั้ง ทุก 7 วัน

3.6 วิธีการจัดการน้ำเพื่อส่งเสริมการพัฒนาการของผลมังคุด

(สัปดาห์ที่ 14-16 หลังต้นมังคุดออกดอก)
ตัวบ่งชี้ช่วยตัดสินใจ
- ประเมินขนาดรูปทรงของผลมังคุด ผลโตเต็มที่เป็นทรงกลมแป้น
วิธีป้องกันและแก้ปัญหา
- ให้น้ำในอัตรา 80 เปอร์เซ็นต์ ของอัตราการระเหยน้ำจากถาดระเหยชนิด A ทุก 3 วัน ต่อเนื่องจนถึงเก็บเกี่ยว

4. วิธีจัดการเพื่อป้องกันผลผลิตมังคุดเสียหาย

4.1 วิธีการป้องกันผลผลิตมังคุดเสียหายจากการเก็บเกี่ยว

(สัปดาห์ที่ 17-23 หลังต้นมังคุดออกดอก)
ประเมินการสุกแก่ของผลมังคุด เก็บเกี่ยวโดยใช้เครื่องมือที่ป้องกันไม่ให้ผลมังคุดร่วงหล่น
ตัวบ่งชี้ช่วยตัดสินใจ
- ประเมินการสุกแก่ของผลมังคุด โดยผลเริ่มมีสีเขียวปนเหลืองอ่อน อมชมพู มีจุดประสีชมพูกระจายทั่วผลมังคุด (ระดับสีที่ 2: ระยะสายเลือด)
วิธีป้องกันและแก้ปัญหา
- เก็บเกี่ยวโดยใช้เครื่องมือที่ป้องกันไม่ให้ผลมังคุดร่วงหล่น หรือกระแทกรุนแรง ระวังอย่าให้ขั้วหัก หรือกลีบเลี้ยงช้ำเลือกเก็บเฉพาะผลที่สุกแก่ในระยะสายเลือด (หากผลมังคุดร่วงหล่นจะทำให้เปลือกและเนื้อช้ำจากนั้นเปลือกจะแข็งเป็นมังคุดด้อยคุณภาพ

4.2 วิธีการป้องกันผลผลิตมังคุดเสียหายในระหว่างการปฏิบัติหลังเก็บเกี่ยวในสวนไม่เหมาะสม

(สัปดาห์ที่ 17-23 หลังต้นมังคุดออกดอก)
ตัวบ่งชี้ช่วยตัดสินใจ
- ประเมินลักษณะภายนอกของผลผลิตมังคุดเป็นผลที่มีตำหนิจากการเข้าทำลายของศัตรูพืช ผลแตกและสาเหตุอื่นๆ
วิธีป้องกันและแก้ปัญหา
- หลังเก็บเกี่ยวผลมังคุดแล้ว เก็บไว้ในที่ล่ม ทำความสะอาดผล ขูดยางเปลือกออก และคัดแยกคุณภาพมังคุดโดยแยกใส่ ตะกร้าหูเหล็ก หรือ ลังหูเหล็ก ก่อนบรรจุลงตะกร้ามังคุดออกจำหน่ายเพื่อง่ายต่อการขนส่ง
ทำความสะอาดผล ขูดยางเปลือกออก
ขูดยางที่เปลือกมังคุดออก
คัดแยกคุณภาพผลผลิตมังคุดใส่ลังหูเหล็ก
คัดแยกคุณภาพผลผลิตมังคุดใส่ลังหูเหล็ก

ดัชนีการเก็บเกี่ยวมังคุด

ได้แบ่งระดับสีของผลมังคุดเมื่อเข้าระยะสุกแก่ไว้ 7 ระดับ ดังนี้
• ระดับสีที่ 0 ผลมังคุดมีสีขาวอมเหลืองสม่ำเสมอ หรือมีสีขาวอมเหลืองแต้มด้วยสีเขียวอ่อน หรือจุดสีเทา มียางสีเหลืองภายในเปลือกในระดับรุนแรงมาก เนื้อและเปลือกไม่สามารถแยกออกจากกันได้ ผลที่เก็บเกี่ยวในระยะนี้ถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนสีไปเป็นระดับที่ 6 ก็ตาม แต่ผลที่ได้จะมีรสชาติไม่ดี
• ระดับสีที่ 1 ผลมังคุดมีสีเหลืองอมเขียว มีจุดสีชมพูกระจายอยู่ในบางส่วนของผล ยางภายในยังคงมีอยู่ในระดับรุนแรง เนื้อและเปลือกยังไม่สามารถแยกออกจากกันได้ ผลมังคุดที่เก็บเกี่ยวในระยะนี้ถึงแม้ว่า จะเปลี่ยนเป็นระดับสีที่ 6 ก็ตาม แต่ผลที่ได้จะมีรสชาติไม่ดี
• ระดับสีที่ 2 ผลมังคุดมีสีเหลืองอ่อนอมชมพู มีประสีชมพูกระจายไปทั่วผลมังคุดยางภายในเปลือกอยู่ในระดับปลานกลาง การแยกตัวระหว่างเนื้อและเปลือกทำได้ยากถึงปานกลางเป็นระยะอ่อนที่สุดสำหรับการเก็บเกี่ยวเพื่อให้ได้ผลมังคุดที่ดีมีคุณภาพ
• ระดับสีที่ 3 ผลมังคุดมีสีชมพูสม่ำเสมอ ประสีชมพูเริ่มขยายมารวมกัน ไม่แยกกันอย่างชัดเจนเช่นในระดับสีที่ 2 ยางภายในเปลือกยังคงมีอยู่น้อยถึงน้อยมาก การแยกตัวระหว่างเนื้อและเปลือกปานกลาง
•  ระดับสีที่ 4 ผลมังคุดมีสีแดงหรือน้ำตาลอมแดง บางครั้งมีแต้มสีม่วง ยางภายในเปลือกมีน้อยมากจนถึงไม่มีเลย การแยกตัวระหว่านเนื้อและเปลือกดีมาก เป็นระยะเกือบจะรับประทานได้
• ระดับสีที่ 5 ผลมังคุดมีสีม่วงอมแดง ภายในเปลือกไม่มียางเหลืออยู่ เนื้อและเปลือกสามารถแยกออกจากกันได้ง่าย เป็นระยะที่รับประทานได้
• ระดับสีที่ 6 ผลมังคุดมีสีม่วง หรือม่วงเข้มจนถึงดำ ซึ่งบางครั้งพบว่ามีสีม่วงปนอยู่เล็กน้อย ภายในเปลือกไม่มียางเหลืออยู่ เนื้อและเปลือกสามารถแยกออกจากกันได้ง่าย เป็นระยะที่เหมาะสมกับการรับประทาน
ระดับสีของผลมังคุดเมื่อเข้าระยะสุกแก่ไว้ 7 ระดับ
ดัชนีการเก็บเกี่ยวมังคุด
ตอน  1  2 
ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
โรงงานพลาสติก L.A PLastic
129/20 หมู่4 ซ.เพชรเกษม99 แยก 5
ต.อ้อมน้อย อ. กระทุ่มแบน
จ.สมุทรสาคร 74130 ประเทศไทย

TEL: 081-903-4147

Email: la2plastic@gmail.com
line qr come ติดต่อโรงงานผลิตพลาสติก
LINE ID: @laplastic
Copyright © 2008 by "L.A PLASTIC"  •  All Rights reserved www.laplastic.biz Tel: 081-9034147